ปลูกอะโวคาโดในกระถาง โดยใช้น้ำ ไม่ต้องมีพื้นที่ก็ปลูกได้
ต้นอะโวคาโดนั้นไม่เห็นปลูกกันตามบ้านเท่าไหร่ส่วนมากหากจะกินก็ต้องหาไปซื้อและมักจะนิยมปลูกกันเป็นสวนใหญ่เลยเพื่อการค้าโดยเฉพาะ แต่ทราบไหมว่าอะโวคาโดเราปลูกเองในบ้านได้ ปลูกในกระถางก็ได้ วันนี้เรามีวิธีการเพาะการปลูกมาฝากโดยการใช้น้ำ อะโวคาโดก็เจริญเติบโตได้ดีเหมือนกัน เผื่อท่านใดอย ากจะมีเอาไว้เป็นของตัวเองสักต้น โดยจะปลูกในดินเลยหรือจะเพาะในน้ำก่อนก็ตามสะดวก ลองมาอ่านกันดู
ปลูกในกระถางโดยการใช้ดิน
พอเรามีผลอะโวคาโดที่แก่พอจะเอาเมล็ดมาเพาะได้แล้ว ก็เอาเมล็ดออกมาระวังอย่ าใช้มีดอาจทำให้เมล็ดเสียหายได้ง่าย พอได้มาแล้วนำเมล็ดไปแช่ในน้ำอุ่นแล้วเอาผ้ามาขัดเบา ๆ จะใช้แปรงขนนุ่มก็ได้เพื่อถูเอาเศษเนื้ออะโวคาโดออกไปก่อน ต่อด้วยการห่อด้วยกระดาษชำระ เสร็จแล้วใส่ ล ง ไ ป ใ น ถุงพลาสคิกไม่ต้องปิดปากถึงแล้วนำไปเก็บในตู้ที่ไม่มีแสงแดด
โดยคอยสังเกตดูเมล็ดอะโวคาโดในถุงทุก 4 วัน หากกร ะ ด า ษชำระแห้งให้พรมน้ำเพิ่มให้ชุ่มชื่นเลย สังเกตไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเริ่มมีการงอกของต้นกล้าออกมา เปลือกเมล็ดจะค่อย ๆ แตกออกมาเห็นเป็นร่องลึกเลย ระวังอย่ าทำเมล็ดแตกเพราะเนื้อเมล็ดนั้นจะเป็นตัวเ ลี้ ย ง ร า ก ให้เจริญเติบโตนั่นเอง พอรากย าวได้ถึง 3 นิ้วก็นำไปเพาะลงกระถางได้เลย โดยจะต้องใช้ดินปลูกที่ระบายน้ำได้ดี
ใส่ในกระถางขนาด 8 นิ้ว ใส่ดินปลูกลงไปครึ่งกระถางแล้ววางเมล็ดที่งอกแล้วลงไปเลย โดยให้ส่วนฐานติดกับดิน ระวังอย่ าให้รากแตกหักแล้วใส่ดินกลบลงไปเลย แต่อย่ ากลบมิดทั้งหมดเหลือส่วนครึ่งบนเอาไว้เพื่อให้ต้นกล้าเจริญเติบโตได้ง่าย
จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางในที่อากาศถ่ายเทสะดวกแต่ต้องไม่โดนแดงไม่มีลมด้วย คอยรดน้ำสม่ำเสมออย่ าให้แฉะเกินไป หลังจากนั้นพอต้นอะโวคาโดที่ปลูกนั้นเริ่มมีใบงอกออกมาแล้ว นำปุ๋ ยสูตร 7 – 9 – 5 มาใส่บำรุงทุก 3 เดือน หรืออาจจะใช้เป็นปุ๋ ยละลายช้าก็ได้เหมือนกัน
การเพาะอะโวคาโดโดยใช้น้ำ
ไม่ย ากเช่นกันสำหรับวิธีนี้ก็เพียงเอาเมล็ดอะโวคาโดมาล้างเนื้อให้หลุดจากเมล็ดจนสะอาดเลยเป็นอันดับแรก
นำเอาส่วนฐานด้านล่ า งที่ อ้ ว น ห น าใส่ลงไปในน้ำเนื่องจากรากจะออกมาทางด้านนั้น
ต่อด้วยการเอาไม้จิ้มฟั น 4 อันมาแ ทงเข้าไปในเมล็ดอะโวคาโดพอประมาณแท งให้ห่างกันพอดี และแท งแบบเฉียง ๆ เล็กน้อย ไม้จะเป็นตัวช่วยค้ำเวลาหย่อนเมล็ดลงน้ำจะได้ไม่พลิกกลับด้านกลิ้งไปมาหรือจมลงไป
จะได้ออกมาประมาณนี้เลย ต้นกล้าจะงอกออกมาทางด้านบน โดยน้ำที่แช่น้ำเอาใส่ในแก้วไว้แล้วเอาเมล็ดที่เสียบไม้จิ้มฟั นเสร็จแล้วใส่ลงไปให้พอดีเลย
จากนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรรอให้รากงอกและต้นงอกเท่านั้น ประมาณ 8 สัปดาห์ก็จะเห็นแล้วหากน้ำแห้งเกินไปก็เติมน้ำลงไปเลย จะสังเกตว่ารากเริ่มค่อย ๆ เยอะขึ้นเรื่อย ๆ
จากนั้นเอาก็เอาไม้จิ้มฟั นออกไปได้เลย ต้นกล้าอะโวคาโดเริ่มสูงสัก 6 นิ้วเราก็ย้ ายไปลงปลูกในกระถางได้เลย ส่วนความย าวรากก็ให้ได้ประมาณ 3 นิ้ว หากย าวเกินไปก็ตัดออกได้เลย ปลูกลงในกระถาง 8 นิ้วแล้วกลบดินให้เรียบร้อยครึ่งเมล็ดแล้วรดน้ำดูแลปกติเลย
นำไปวางในที่มีแสงแดดส่องถึงและจะต้องดูแลรดน้ำเป็นประจำทุกวัน ดินปลูกจะต้องร่วนระบายน้ำได้ดี ระวังอย่ าให้น้ำเยอะเกินไปอาจทำให้เน่าได้ หากช่วงไหนชื้นไปเว้นการรดน้ำเป็น 3 วัน/ครั้งก็ได้
พอเราปลูกต้นอะโวคาโดได้สูงประมาณ 12 นิ้วก็ให้เด็ดยอดอ่อนออกไป 2 ยอด เพื่อให้ต้นได้แตกกิ่งออกมาเพิ่ม แล้วพอต้นสูงขึ้นไปอีก 6 นิ้วก็เด็ดออก 2 ยอดเพื่อให้มีการแตกยอดเพิ่มด้วยเหมือนเดิม แล้วเราก็ต้องคอยดูแลเรื่องแมล ง ศัตรูพืชด้วย อาจใช้น้ำย าล้างจานผสมน้ำมันสะเดามาฉีดก็ช่วยได้บ้าง
ประโยชน์ของอะโวคาโด
เราต่างทราบดีว่าอะโวคาโดนั้นเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบำ รุ งร่ า ง ก า ยให้มีสุขภาพดี ผิวดี และยังช่วยลดไขมันในเลื อดได้ ลดการเกิดโ ร ค อ้ ว น ได้ ช่วยบำรุงผม และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย แม้ว่าในความเป็นจริงด้านรสชาตินั้นบอกตามตรงว่าก็ไม่ได้มีรสเด็ดโดนใจอะไรมากนัก แต่เราก็ทานเอาประโยชน์เพื่อให้ร่างกายได้มีสุขภาพดีนั่นเอง
การปลูกอะโวคาโดก็ง่าย ๆ เพียงเท่านี้เองแต่ว่ากว่าที่เราจะได้เห็นผลผลิตนั้นก็อาจจะประมาณ 3 – 4 ปี แต่บางต้นก็ค่อนข้างช้าถึง 15 ปีเลยก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์อะโวคาโดที่เราเลือกมาปลูกด้วยเหมือนกัน หากอย ากจะมีไว้เป็นของตัวเองสักต้นก็ลงมือได้เลย
เรียบเรียงโดย kasetchaoban