การปลูกฟักทอง เทคนิคจากเจ้าของสวนหลังจากการปลูกข้าว ให้ได้ผลผลิตสูง
หลังจากทำนาข้าวเสร็จเกษตรกรก็มักจะต้องทำการเพาะปลูกพืชไร่พืชสวนอย่ างอื่นตามมา ขึ้นอยู่กับแต่ละสวนว่าจะปลูกอะไร บางพื้นที่ก็ทำสวนมะเขือเทศ บางทีก็เน้นไร่อ้อย หรือมันสำปะหรัง ส่วนมากจะปลูกตามที่โรงงานที่ใกล้เคียงนั้นรับซื้อ รวมถึงฟักทองด้วย มีทั้งแบบที่เน้นใช้เมล็ดกับฟักทองแบบเน้นใช้เนื้อ ก็อยู่ที่ว่ากลุ่มลูกค้าเราคือใครด้วย สำหรับคนที่สนใจปลูกฟักทองในช่วงหลังทำนาเสร็จเรามีวิธีในการปลูกมาแนะนำ มาติดตามอ่านได้เลย
ในการเตรียมพื้นที่ปลูกฟักทองนั้นให้ทำการไถและตากดินเอาไว้ก่อนสัก 7 วัน เป็นการไล่แมล งต่าง ๆ ออกจากดินด้วยและกำจัดโร คร าต่าง ๆ ไปในตัว และอย่ าลืมเช็กสภาพความเป็นกรดด่างของดินให้ดีด้วยหากเป็นกรดเยอะไปก็ควรปรับสภาพดินให้พร้อมก่อน โดยใช้ปูนขาวมาโรยลงไปในการเตรียมแปลงปลูก
การปลูกฟักทอง
ให้เลือกวิธีการปลูกให้เหมาะสม หากต้องการปลูกไม่เยอะอาจจะทำเป็นแปลงปลูก ระยะที่ 1.5 x 1.5 เมตร แต่ว่าเวลาฟักทองโตจะทำให้กระจายออกมาเต็มพื้นที่ไปหมด แต่ว่าก็ดีตรงที่จะทำให้มีผลผลิตเยอะขึ้นด้วย อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจในการปลูกฟักทองคือ การปลูกแบบแถวเดี่ยว ทำแปลงแถวเดี่ยวเลยในขนาดความกว้างที่ 1.8 – 2 เมตร ระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 1.5 เมตร พอปลูกแล้วฟักทองโตขึ้นจะมีเถาเลื้อยไปตามแนวที่เราทำไว้
การปลูกแบบแถวคู่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการปลูกฟักทองที่ได้รับความนิยมเช่นกัน มีการยกร่องแปลงด้วย 2 ด้านเลย ระยะอยู่ที่ 3.5 – 5 เมตร ระยะห่างระหว่างต้นจะอยู่ที่ 1.5 เมตร เหมือนกับการปลูกแบบแถวเดี่ยวเลย ซึ่งการปลูกแบบนี้จะทำให้ฟักทองเลื้อยไปจรดเข้าหากัน 2 ด้าน มีร่องที่ใช้เป็นทางเดินได้สะดวกอีกด้วย วางระบบน้ำให้ดีหาพลาสติกมาคลุมจะทำให้ควบคุมวัชพืชได้อีกด้วย
การจะปลูกฟักทองนั้นจะใช้เป็นวิธีหยอดเมล็ดหรือหาต้นพันธุ์กล้าก็ตามแต่สะดวกเลย ลองพิจารณาดูที่ต้นทุนว่าแบบไหนคุ้มมากกว่ากัน ส่วนฟักทองพันธุ์นั้นที่สวนคุณลี จ.พิจิตร เน้นปลูกแบบผสมเปิด แต่ว่าเป็นสายพันธ์ที่เอาเมล็ดไปปลูกขย ายต่อไม่ได้ ใครจะปลูกสายพันธุ์นี้จะต้องมีการเสียค่าเมล็ดพันธุ์ทุกครั้งที่จะปลูก หรือจะหาซื้อต้นพันธุ์มาก็ได้ โดยก่อนจะปลูกให้รองก้ นหลุมด้วยสตาร์เกิลจีเพื่อควบคุมแมล งมาก่อกวน แล้วค่อยหยอดเมล็ดลงไปในหลุม 3 – 5 เมล็ด/หลุม แล้วกลบดิน เอาฟางมาคลุมแล้วรดน้ำให้ชุ่มทุกวันเช้ากับเย็น ประมาณ 5 วันต้นกล้าก็งอกขึ้นมาแล้ว
หากฟางที่คลุมหนาไปให้ช่วงแหวกออกมาบาง ๆ เพื่อให้ต้นกล้าแท งยอดขึ้นมาได้ง่าย ๆ และรอให้ต้นกล้าฟักทองมีใบจริงประมาณ 2 – 3 ใบ ก็คอยถอนต้นที่อ่อนแอทิ้งไปแล้วเหลือต้นที่แข็งแรงเอาไว้ 1 ต้น/หลุม หากปลูกโดยต้นกล้าจะปลูกเมล็ดฟักทองนั้นให้นำไปล้างน้ำก่อนสัก 1 – 2 รอบ แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 30 นาที
นำเมล็ดไปห่อในผ้าขาวบางก่อนเป็นการบ่ม แล้วใส่ในกล่องพลาสติก 3 – 5 วันก็เริ่มมีการงอกแล้ว จากนั้นค่อยย้ ายไปปลูกที่ถาดเพาะกล้า แล้วรดน้ำไป 10 วัน รอให้มีใบจริงออกมาก่อนแล้วค่อยย้ ายต้นไปปลูกที่หลุมอีกที สำหรับปลูกที่ใช้ในการบำรุงฟักทองนั้นจะเป็นสูตร 16 – 16 – 16 หรือ 19 – 19 – 19 โดยใส่ในปริมาณ 5 กรัม ตอนรองก้ นหลุม แล้วหยอดส ารกันแมล งไปพร้อมกันเลย เป็นสตาร์เกิลจี 2 กรัม/หลุม
สิ่งที่จะทำให้ต้นฟักทองนั้นโตได้อย่ างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์นั้นคือการให้น้ำและปุ๋ ยในปริมาณที่พอดี แต่ไม่ควรให้มากเกินไปจนเกินความต้องการ ตอนแรกที่ให้ปุ๋ ยนั้นก็ตอนปลูกเลยใส่รองก้ นหลุมไปเลย และพอต้นฟักทองอายุได้ 10 – 14 วัน ก็เปลี่ยนมาให้เป็นปุ๋ ย 46 – 0 – 0 หรือ 15 – 0 – ในอัตรา 10 – 15 กิโลกรัม/ไร่ แล้วพอฟักทองอายุ 20 – 30 วันก็ให้เป็นปุ๋ ย 13 – 13 – 21 โดยให้แบ่งใส่ 2 ครั้ง 25 – 30 กิโลกรัม/ไร่ ในส่วนของการให้น้ำนั้นก็ให้แบบปล่อยไหลให้ซึมลงดินไปเลย อย่ าให้น้ำขัง
ปลูกฟักทองไปจนติดผลแล้วก็ถึงเวลาในการเก็บเกี่ยว โดยตอนเก็บนั้นให้ตัดไปแบบมีขั้วติดผลไปด้วย ให้สังเกตฟักทองลูกที่แก่พร้อมเก็บสีจะเริ่มนวลขึ้นไปจนถึงขั้วเลย ฟักทองแก่รสจะหวานเนื้อเหนียว เหมาะแก่การนำไปประกอบอาหารหรือทำเมนูของหวานต่าง ๆ สำหรับการปลูกฟักทองก็มีประมาณนี้ สนใจปลูกสายพันธุ์อะไรก็หามาปลูกได้เลย
เรียบเรียงโดย kasetchaoban